บอร์ด
กระทู้: ศาลแพ่งเพิกถอนคำสั่ง ระงับทำสัญญา"บ.ยูดริ้งค์ฯ"

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินหรือกิจการ "บ.ยูดริ้งค์ ไอไดร์ฟ" ชี้เหตุคำเบิกความโจทก์เป็นเท็จ ขณะที่บริษัทฯ ฟ้องอดีตประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง ฐานเบิกความเท็จต่อศาล

 

จากกรณี น.ส.สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ อดีตประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ยูดริ้งค์ ไอไดรฟ์ จำกัด Tech Startup ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเรียกพนักงานขับรถส่วนตัว "udrink idrive" ได้ยื่นฟ้อง น.ส.อภินรา ศรีกาญจนา นายจิรายุ พิริยะเมธา อดีตผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท และบริษัท เอเชียพลัส แอสซิสแต้นซ์ จำกัด เป็นจำเลย หลังจากที่อดีตผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ได้ตกลงขายทรัพย์สินของบริษัทในราคาที่ตํ่ากว่ามูลค่าจริงหลายเท่าตัวโดยขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเพิกถอนรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 เฉพาะมติส่วนที่เกี่ยวกับการขายทรัพย์สิน พร้อมให้ระงับการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินหรือกิจการ และให้จำเลยทั้ง 4 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมกับค่าทนายความอย่างสูงแทนโจทก์ พร้อมกันนี้ล่าสุดได้เดินทางไปยังศาลเพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวระหว่างที่รอศาลดำเนินคดี ตามที่ปรากฏเหตุไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 22 ก.ย. แหล่งข่าวทางบริษัทยูดริ้งค์ฯ แจ้งว่าได้มอบหมายให้ทนายนำหลักฐานความเป็นจริงทั้งหมดไปดำเนินการยื่นคำร้อง เพิกถอน คำสั่ง ซึ่งในวันเดียวกัน ศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในทันที เนื่องจากคำเบิกความที่ น.ส.สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ได้ยื่นให้ศาล อันซึ่งทำให้ได้มาซึ่งความคุ้มครองดังกล่าวนั้นเป็นเท็จ ในวันที่ 13 มิ.ย. ไม่ได้มีการประชุมผู้ถือหุ้นใด ๆ ต่อมาในวันที่ 18 ก.ย. บริษัท ยูดริ้ง ไอไดร์ฟ จำกัด ได้ยื่นฟ้องคดีอาญา น.ส.สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา “เบิกความเท็จต่อศาล” ในการไต่สวนขอคุ้มครองชั่วคราวแล้ว
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังเผยอีกว่า ในส่วนของข่าวการขายบริษัทในราคาเพียง 3 ล้านบาท ตามที่ น.ส.สิรโสมย์ อดีต CEO ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ตามสื่อต่าง ๆ ว่าบริษัทกำลังประสบความสำเร็จมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาทนั้น ทางบริษัทฯขอชี้แจงโดยไล่ในไทม์ไลน์มาดังนี้

เดือน ก.ย. 61 บริษัทฯ เริ่มที่จะติดต่อคุยกับนักลงทุนต่าง ๆ เพราะ อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ซึ่งควบตำแหน่ง CFO (ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงิน) แจ้ง ว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ มีปัญหาขาดสภาพคล่อง เงินไม่พอจ่ายค่าใช้จ่าย อีกทั้งบริษัทฯ มีบัญชีที่ต้องปรับเพื่อ ผลทางภาษี และอีกหลายเหตุผล โดยหุ้นส่วนทั้ง 3 คน ได้มีโอกาสและพยายามติดต่อนักลงทุนอยู่มากกว่า 10 ราย แต่ไม่สามารถหาผู้ลงทุนได้โดยส่วนหนึ่งมาจากงบบัญชีของบริษัทที่ไม่ถูกต้อง

วันที่ 23 พ.ย.61 ในเวลาที่บริษัทกำลังลำบาก อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ส่งจดหมายขอลาออกจากตำแหน่ง CEO และการบริหารทุกอย่าง แต่จะคงไว้แต่การเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการเท่านั้น เพราะธุรกิจนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ตามที่คาดหวังไว้ (จดหมายลาออกประกอบ)

วันที่ 20 ธ.ค. 61 อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ส่งอีเมล์สรุปการประชุมว่าต้องเพิ่มทุนอย่างน้อย 3 ล้านบาทและจะต้องรีบดำเนินการทันที โดยให้จ่ายเงินเพิ่มทุน 50% ภายในวันที่ 25 ธ.ค.61 (5วันถัดมา) และส่วนที่เหลือ 50% จ่ายในอีก 15 วันถัดมา คือ วันที่ 9 มกราคม 2562

วันที่ 24 ธ.ค.61 น.ส.อภินารา ได้โอนเงินสดเข้าบริษัทฯ จำนวน 300,000 บาท เพื่อแก้ปัญหาบริษัทขาดสภาพคล่อง ตามที่ อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์)ได้แจ้งไว้ เพราะเกรงว่าการเพิ่มทุนจะดำเนินการไม่ทัน

เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 62 น.ส.สิรโสมย์ ตั้งใจ พยายาม ขายหุ้นตัวเองให้ น.ส.อภินาราในราคาสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยพยายามโน้วน้าวว่าจริง ๆ แล้วบริษัทมีมูลค่าหลายร้อยล้านถึงแม้ว่า บริษัทจะขาดสภาพคล่อง และขาดทุนสะสมอยู่ก็ตาม และตนเองนั้นได้ลดราคาให้ น.ส.อภินารา อย่างมากแล้ว

ขณะที่สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ย่ำแย่ลงขนถึงชั้นวิกฤต โดยผู้บริหาร 2 ท่าน ในเวลานั้น น.ส.อภินาราและนายจิรายุ ได้ดำเนินงานกู้เงินจำนวน 700,000 บาทเพื่อกู้วิกฤตทางการเงิน หลังจากนั้น เพื่อดำเนินการแก้ปัญหา บิดาของน.ส.อภินาราในฐานะผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายได้แนะให้ลองหารือกับบริษัท เอเชียพลัส แอสซิสแทนท์ จำกัด คู่ค้าของบริษัท เอเชียประกันภัย เพราะเชื่อว่าต้องเป็นบริษัทฯ ที่เชื่อถือในตัวของ บิดาของน.ส.อภินารา จึงจะกล้าเข้ามาใน ธุรกิจ เพราะดูจากวิธีการลงบัญชีแล้ว นักลงทุนทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้ามา

วันที่ 28 มี.ค. 62 ประชุมกรรมการครั้งที่ 1 วาระหลัก: แก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้ต่างฝ่ายต่างไปหาดีลจากนักลงทุน เพื่อนำมาเลือกอันที่ดีที่สุด

วันที่ 24 เม.ย.62 ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) วาระ: พิจารณางบดุลปี 2561 อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ในฐานะ CEO & CFO ไม่ยอมเซ็นต์รับรองงบดุลที่ตนเองเป็นคนทำไว้ตั้งแต่ก่อนที่ น.ส.อภินารา และนายจิรายุจะขึ้นมาดูแลแทน โดนให้ ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 รับผิดชอบผลงานดังกล่าว เข้าวาระหลัก ให้ทุกคนนำเสนอดีลที่ตนเองมี อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) และ นายจิรายุ ไม่สามารถหาดีลมาได้ น.ส.อภินารานำข้อเสนอบริษัทเอเชียพลัสฯ ซึ่งดีลคือ ตีมูลค่าบริษัทที่ 20 ล้านบาท จ่ายก่อน 3 ล้านบาทที่เหลือจะจ่ายตาม KPI แต่อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) บอกว่าข้อเสนอจากเอเชียพลัสยังไม่ดีพอ และมีข้อเสนอที่ดีกว่า ทางน.ส.อภินารา จึงบอกว่า ให้นำข้อเสนอดังกล่าว มาเป็นเอกสารที่ถูกต้อง และ หากเราตกลงจะได้เซ็นกลับไปให้ได้เลย ที่ประชุมตกลงให้เลื่อนและให้มีบันทึกว่าครั้งหน้าจะต้องนำเอกสารนักลงทุนมาให้เรียบร้อย เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้น.ส.อภินารา ให้แจ้งเอเชียพลัสว่าเรามีอีกดีลที่ดีกว่า อยากจะให้เสนอใหม่หรือไม่

7 พ.ค.62 ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 วาระ: อนุมัติงบดุล และเซ็นต์รับรองงบดุลโดย น.ส.อภินารา และนายจิรายุ เพราะไม่เช่นนั้นบริษัทฯ จะโดนปรับและเป็นงบดุลปี 2561 ขณะที่ อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์)ไม่นำข้อเสนอเข้ามาและยอมรับไม่มีข้อเสนอที่เป็นเอกสารจากฝั่งตน ทำให้ น.ส.อภินารานำข้อเสนอบริษัทเอเชียพลัสฯ ที่ไปต่อรองและปรับปรุงมาให้ที่ประชุมพิจารณา

1.1 ปรับลด KPI, 1.2 ให้เอาข้อความ “ห้ามค้าขายแข่ง (Non-Competition)” ให้เอาออก, 1.3 ต้องมีคำตอบจาก UDink หากตกลงให้ทำจ่าย 3 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของบริษัท ยูดริ้งค์ไอไดรฟ์ จำกัด โดยทันที เนื่องจากมีดีลเดียวให้เลือก และ บริษัทกำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากที่ประชุมพิจารณาอนุมัติเรื่องการขายทรัพย์สินให้กับบริษัทเอเชียพลัสฯ

14 พ.ค. 62 อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ขอให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งเพื่อ พิจารณาวาระเดิมเรื่องข้อเสนอขายให้บริษัทเอเชียพลัสฯ และขอให้พิจารณาโอนหุ้นให้พี่สาวของตนครึ่งหนึ่ง ซึ่งแจ้งว่าได้ดำเนินการโอนเรียบร้อยแล้ว ความเห็นของเลขานุการที่ประชุมแจ้งว่า รบกวนอดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ถ้าอยากทำก็ไม่มีสิทธิห้าม แต่ไม่น่าจะถูกต้องกับข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 5 “บริษัทจะถือหุ้นหรือรับจำนำหุ้นของบริษัทเองไม่ได้ และหากผู้ถือหุ้นต้องการขายหุ้น จะต้องประกาศขายให้กับบุคลลภายในก่อน และหากบุคคลภายในไม่ซื้อ จึงจะขายให้บุคคลภายนอกได้ และจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมเสียงข้างมากก่อน” แต่ถ้าอดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ยืนยันจะทำ ก็ให้ไปทำและให้นำเอกสารมาให้เรียบร้อย เพื่อเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

31 พ.ค. 62 ประชุมกรรมการเพื่อเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามที่ผู้ถือหุ้นร้องขอ ที่ประชุม กำหนดให้มีประชุมในวันที่ 13 มิ.ย.62 (หมายเหตุ: ในวันนี้ อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ยื่นขอคำสั่งศาลห้ามชั่วคราวในการขายให้บริษัทเอเชียพลัสฯ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อ 7 พ.ค.62 แต่ศาลยกคำร้อง)

13 มิ.ย.62 น.ส.อภินารา และนายจิรายุ จัดประชุมผู้ถือหุ้นตามที่อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ร้องขอมาแต่เวลาผ่านไป 45 นาที ไม่ปรากฎว่าอดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) มาประชุม จึงยกเลิกการประชุมและไม่มีการประชุมใด ๆ

และล่าสุด จากกรณีบัญชีงบดุลตามที่ อดีต CEO (น.ส.สิรโสมย์) ได้บริหารไว้ และนำเสนอต่อกรมสรรพากรไว้นั้น ได้เป็นประเด็นให้ทาง ผู้บริหารฯ ได้ติดต่อ สนง. ตรวจสอบบัญชีสากล เพื่อทำการสืบสวนหาหลักฐานเนื่องจากเห็นความพิรุธ ในเส้นทางการเงิน เพื่อจะตรวจสอบ ในประเด็นหลัก คือ 1. เงินหายไปไหน จนบริษัทขาดทุนและขาดสภาพคล่องอย่างมาก ทั้งที่ตามที่ น.ส.สิรโสมย์ กลับแจ้งเองต่อสรรพากรเองว่าบริษัทมีรายได้มากมาย 2. เงินหายไปได้อย่างไร 3. จำนวนเงินเบื้องต้นเท่าไร ที่หายออกไปและหากพบว่ามีการทุจริต ฉ้อฉล ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่นาน จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดให้แก่ผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ขอเรียนชี้แจ้งไว้ ณ โอกาสนี้ ทางบริษัทฯ ยังคงมีเจตนารมย์ มุ่งมั่น ที่จะทำธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับความรับผิดชอบทางสังคม โดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ข้อมูลเพิ่มเติม หรือหากมีสิ่งใดคืบหน้า ทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา: https://www.dailynews.co.th

 
14 ต.ค. 62 เวลา 23:18 448