“พีไฟว์ กรุ๊ป” กลุ่มธุรกิจที่มาจากแนวคิดและไอเดียของคนไทย เดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จจากผู้นำด้านธุรกิจขายตรง นำมาต่อยอดสานต่อธุรกิจที่มีความหลากหลาย จากรุ่นบุกเบิกสู่รุ่นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง พร้อมปรับ      กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ารับกระแสยุคดิจิตอลไลฟ์สไตล์ เล็งเป้าปี 2562  ยอดโตเพิ่มขึ้น 30%

บริษัท พรปิยะ กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านขายตรงเป็นเจ้าแรกๆ โดยเริ่มมาจากการผลิตน้ำมันรำข้าว เพื่อให้คนไทยได้รับสิ่งที่ดีและมีคุณภาพ  ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีและมีชื่อเสียงมานานกว่า 10 ปี  จากรุ่นบุกเบิกสู่  นักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรงเจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีความคิดไม่หยุดนิ่ง จึงมองเห็นโอกาสและช่องทางใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งต่อมาได้ขยายธุรกิจด้านเน็ตเวิร์ค เพื่อรองรับแบรนด์สินค้าในบริษัทฯ และธุรกิจที่ครอบคลุมแบบครบวงจร รวมถึงสร้างอาชีพที่หลากหลายให้กับคนไทย ซึ่งปัจจุบันได้ก่อตั้งเป็นกลุ่มธุรกิจขึ้นมา ภายใต้ชื่อ  “กลุ่มธุรกิจ พีไฟว์ กรุ๊ป”  โดยที่มาของชื่อ “พีไฟว์ กรุ๊ป” ได้รับแนวคิดและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (เสด็จพ่อ ร.5) ดุจพรจากสมเด็จพระปิยะมหาราช ซึ่งสอดคล้องกับชื่อบริษัทฯ นั่นเอง

คุณภาวัฒน์  โตกะคุณะ ประธานบริหาร บริษัท พรปิยะ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าในปัจจุบัน เนื่องจากธุรกิจด้านขายตรงและ E-commerce นั้นปรับตัวอย่างรวดเร็ว   เราจึงขยายธุรกิจด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยให้มีการครอบคลุมเชื่อมโยงและรองรับสินค้าภายในบริษัทให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานมากยิ่งขึ้น  โดยกลุ่มธุรกิจ  “พีไฟว์ กรุ๊ป” ต่อยอดและเติบโตมีทั้งหมด 8 บริษัท ได้แก่  บริษัท พีไฟว์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ธุรกิจ Call Center) บริษัท พีไฟว์ ทีวี แอนด์ โปรดักชั่น จำกัด (ธุรกิจเผยแพร่ข้อมูลสินค้าและข่าวสารผ่านช่อง คูล ชาแนล และให้เช่าช่องสัญญาณ) บริษัท วิคตอรี อินเทนซีฟ จำกัด (ดำเนินธุรกิจด้านขายตรง) บริษัท ยู ช้อปปิ้ง ออนไลน์ จำกัด                 (ธุรกิจ Home Shopping) บริษัท พีไฟว์ โปรดักชั่น จำกัด (ผลิตรายการและสื่อออนไลน์) บริษัท พีไฟว์ คอสเมติก จำกัด (ธุรกิจด้านการผลิตกลุ่มสินค้าความงาม) บริษัท อันดาแลนด์ จำกัด  (ผลิตและสร้างเกมแอปพลิเคชั่นคีบตุ๊กตาออนไลน์) บริษัท พีไฟว์ โลจิสติกส์ จำกัด (บริการด้านจัดส่งสินค้ารองรับผู้บริโภคได้อย่างคลอบคลุม) ซึ่งทั้งหมดนี้  เพื่อมุ่งเน้นขายสินค้าและบริการใน แบรนด์  “P5”  เน้นถึงประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลักสำคัญ   ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ  “พีไฟว์ กรุ๊ป” มีพนักงานมากกว่า 200 คน  บริหารงานด้วยระบบ  Family Eco System ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เป็นพนักงานรุ่นใหม่ที่มีอิสระทางความคิดพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจร่วมกัน 

โดยในปีนี้ “พีไฟว์ กรุ๊ป”  มีแผนในการทำเน็ตเวิร์คในรูปแบบใหม่ โดยนำเอาระบบขายตรงมาผสมผสานกับเทมเพลตมาร์เก็ตติ้ง นอกจากนี้ยัง มีระบบ Call Center จำนวน 120  ที่นั่ง  เทเลเซลล์ให้บริการและขายสินค้า มีช่อง  U shopping   ทำ Social  E- commerce และ Social - commerce การทำตลาดเน้นคอนเท้นท์มาร์เก็ตติ้ง                โดยมีเป้าหมายนอกจากการขายสินค้าโดยตรงแล้ว เราจะเน้นให้ความรู้กับแฟนเพจและลูกค้าด้วย รวมถึงช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ่านทีวีโปรดักส์ชั่น สื่อออนไลน์ และ ระบบ Call Center แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งผู้บริโภคพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเปรียบเสมือนกุญแจสู่ความสำเร็จในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์  นอกจากนี้ยังมีตู้คีบตุ๊กตาผ่านมือถือ เป็นเกมส์คีบตุ๊กตาออนไลน์ ที่เรียกว่า UFO Catcher โดยใช้ทีมพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คนไทยสามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน  ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

สำหรับภายในปี 2562 นี้ “พีไฟว์ กรุ๊ป” ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของทุกธุรกิจในเครือทั้งหมด อยู่ที่ 400 ล้านบาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตมากขึ้น 30%  และมีการขยายระบบ Call Center ให้มากขึ้น และ Data Analysis  โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้ามากขึ้น และนำระบบ Artificial Intelligence  (AI) เข้ามาช่วย อีกด้วย   นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ขยายช่องทางการตลาดให้คนรู้จักผ่านทางสื่อดิจิตอลมากยิ่งขึ้น  โดยเรายังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ เราได้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ร้านไก่ย่าง    ชื่อ “สอ เสือไก่ย่าง” ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทางเรามองเห็นการเติบโตและเป็นธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ  โดยการทำธุรกิจในแต่ละธุรกิจนั้น “เราไม่ได้หวังอยากเป็นที่หนึ่ง แต่เราคาดหวังในการเข้าไปอยู่ในธุรกิจนั้นๆ และค้นหาโอกาสใหม่ๆ  อย่างไม่หยุดนิ่งอยู่เสมอ  คุณภาวัฒน์  กล่าวทิ้งท้าย”

“พีไฟว์ กรุ๊ป” ยังคงมุ่งมั่น เพื่อที่จะพัฒนาองค์กรแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในเครือ รวมถึงบุคลากรแบบมืออาชีพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างสัมพันธ์ที่ดีส่งต่อให้ลูกค้ามั่นใจในกลุ่มธุรกิจ “พีไฟว์กรุ๊ป”