เผยทุกขั้นตอน ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว

สำหรับคนมีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไว้ในครอบครอง เชื่อว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีนั้นมีการเปิดช่องทางในการดำเนินการชำระ ค่าภาษีรถยนต์ ได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิมนั้นก็คือ การ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งรองรับทั้งการต่อ ภาษีรถยนต์ 4 ประตู การต่อ ภาษีรถเก๋ง การต่อ ภาษีรถกระบะ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และการต่อภาษีรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่ไม่กล้าใช้งานช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ช่องทางนี้ เนื่องจากรู้สึกไม่คุ้นเคยกับการใช้งานระบบของทางราชการและการลงทะเบียนนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ มากมาย รวมถึงยังเป็นกังวลด้วยว่าต้องเสีย ค่าภาษีรถยนต์ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ มากกว่าการเดินทางไปต่อภาษีรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนยังทนเสียเวลากับช่องทางการต่อภาษีแบบเดิม ดังนั้นในวันนี้เราจึงนำ 5 ขั้นตอนในการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ มาฝาก รับรองว่าไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดแน่นอน

1. ในขั้นตอนแรกของการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ คือ ผู้ใช้งานต้องเข้าไปยังที่หน้าเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก (https://www.dlt.go.th/th/) แล้วเลือกเมนูบริการผ่านอินเทอร์เน็ตที่นำไปสู่หน้ารวมรายการที่มีบริการออนไลน์ของกรมการขนส่งทางหลวง จากนั้นจึงคลิกเมนูชำระ ค่าภาษีรถยนต์ ผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนคนที่ไม่อยากยุ่งยากก็สามารถตรงไปที่หน้าเพจของการชำระภาษีรถผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรงด้วยURL: https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf ซึ่งหากเป็นผู้ที่ไม่เคย ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ มาก่อน ผู้ใช้งานจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อสร้างแอคเคานท์และรหัสผ่านในการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยผู้ใช้งานจำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง ได้แก่ เลขที่บัตรประชาชน ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ปัจจุบัน และที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร จากนั้นจึงจะทำการล๊อกอินเข้าสู่ระบบเพื่อยื่นเรื่องต่อภาษีรถยนต์ได้
2. เมื่อล๊อกอินเข้าสู่ระบบได้แล้วให้คลิกที่เมนูยื่นชำระ ค่าภาษีรถยนต์ ประจำปี หน้าเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปที่หน้าแสดงรายการรถที่ผู้ใช้งานครอบครอง ถ้าเป็นการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ เป็นครั้งแรกผู้ใช้งานต้องทำการลงทะเบียนรถที่ต้องการต่อภาษีประจำปีเสียก่อน ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่กรอกข้อมูล ประเภทของรถที่ต้องการต่อภาษี จังหวัด เลขทะเบียนรถ และชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถ จากนั้นทำการคลิกเลือกรถและกดคำสั่งยื่นชำระภาษี
3. โดยทั่วไปแล้วในการต่อ ค่าภาษีรถยนต์ ประจำปีนั้นต้องใช้เอกสารสำเนาทะเบียนรถและ พ.ร.บ. ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการต่อภาษีรถยนต์ เพราะต้องกรอกรายละเอียดเลขที่กรมธรรม์ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันในการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ สามารถคลิกที่ช่อง ไม่มี พ.ร.บ. เพื่อทำ พ.ร.บ. ออนไลน์พร้อมกันได้เลย
4. เลือกช่องทางการชำระเงิน ซึ่งในการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกช่องทางการชำระ ค่าภาษีรถยนต์ ได้ทั้งสิ้น 3 ช่องทาง ได้แก่ ชำระโดยการหักบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี ชำระผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพและธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่มีสัญลักษณ์ VISA และ Master Card เท่านั้น และสุดท้ายพิมพ์ใบแจ้งราคาเพื่อนำไปชำระทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสและตู้เอทีเอ็มของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ โดยผู้ใช้งานจะต้องชำระ ค่าภาษีรถยนต์ ที่คิดตามปริมาณซีซีของรถยนต์ ค่าจัดส่งเอกสาร ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิต 2% และ VAT 7% (ถ้ามี)
5. ตรวจสอบผลการต่อ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ผ่านเมนูตรวจสอบผลการชำระ ค่าภาษีรถยนต์ เพื่อแสดงว่าการต่อภาษีรถยนต์ดำเนินการถึงในขั้นตอนไหนแล้ว รวมทั้งมีการแจ้งหมายเลข EMS เมื่อมีการส่งใบเสร็จรับเงินและเอกสารหลักฐานการต่อภาษีไปให้ที่อยู่ของผู้ใช้งานตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ในรับภายใน 7 วัน โดยไม่เกิน 15 วัน เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนในการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ เรียบร้อย

                  จะเห็นได้ว่าการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ นั้นเป็นช่องทางในการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีที่สะดวกสบาย ดำเนินการเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จสิ้นการต่อ ค่าภาษีรถยนต์ ประจำปี และไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่กรมขนส่งทางบกให้ยุ่งยาก ดังนั้นไม่ว่าจะต่อ ภาษีรถยนต์ 4 ประตู ต่อ ภาษีรถเก๋ง ต่อ ภาษีรถกระบะ หรือต่อภาษีรถจักรยานยนต์ก็สามารถทำง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว ที่สำคัญหากมีติดปัญหาในการใช้งานหรือการดำเนินในขั้นตอนใดผู้ใช้งานสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1584 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถามและแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งานทุกคน