หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้วางแผน สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนคลอด และวิธีการเลี้ยงเด็กให้ออกมาได้อย่างเหมาะสม เช่น การไม่มีวิธีรับมือกับเรื่อง ทารกท้องเสีย ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็กได้ เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรทำความเข้าใจ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าทำไมจะต้องเรียนรู้และเข้าใจพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยกัน

เด็กแต่ละวัยมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน

เด็กเล็กที่พึ่งเข้าอนุบาลนั้นเป็นวัยที่สามารถอ่านออกเขียนได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังเป็นการอ่านและการเขียนแบบง่าย ๆ ซึ่งวิธีที่ง่ายต่อการเรียนรู้ของพวกเขาคือ การวาดรูประบายสีตามจินตนาการ การเล่นเกม การร้องเพลงและเต้นประกอบจังหวะ เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีการเรียนรู้ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น สามารถนำตัวอักษรมาประกอบเป็นคำ คำนวณตัวเลขได้ ด้วยความแตกต่างนี้ทำให้เด็กในแต่ละวัยเรียนรู้ได้แตกต่างกัน หากคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่า พัฒนาการของเด็ก นั้นมีความต่างกันก็จะทำให้เข้าใจลูกของตัวเองมากขึ้น

การเข้าใจพัฒนาการของเด็กทำให้คุณแม่วางแผนการเลี้ยงลูกได้

หากคุณเข้าใจแล้วว่าเด็กในแต่ละวัยนั้นจะมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ พัฒนาการทารก จนถึงวัยโต คุณจะสามารถวางแผนได้ว่าลูกของคุณควรได้รับการดูแลและให้การศึกษาที่เหมาะสมกับพัฒนาการเพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ตามวัยอันควรได้ เช่น เด็กแรกเกิด และเด็กในวัยเล็กนั้น จะเรียนรู้ด้วยวิธีการง่าย ๆ และเกิดการเรียนรู้ด้วยวิธีลอกเลียนแบบ ถ้าคุณทราบ พัฒนาการของเด็ก ในข้อนี้ก็จะทำให้คุณสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้ลูกเรียนรู้จากคุณได้ และหากลูกเกิดคำถาม คุณก็จะสามารถหาคำตอบมาอธิบายกับลูกได้เข้าใจให้เหมาะสมกับวัยของเด็กได้เช่นกัน

ความคาดหวังและการเปรียบเทียบเด็กจะลดน้อยลง

คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองบางคนมีความคาดหวังต่อการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ปกครองในปัจจุบันที่ถูกสภาพแวดล้อมสังคมให้ค่านิยมว่าเด็กเล็กควร ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ ทำให้มีการคาดหวังในตัวเด็กสูงมากจนเกินไปและเกิดการเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่น คุณพ่อคุณแม่บางคนที่มีลูกยังเรียนชั้นอนุบาลได้มีการพาลูกไปเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนจนถึงช่วงดึกเพื่อให้ลูกเรียนทันคนอื่น ซึ่งการคาดหวังนี้ทำให้เด็กได้รับความกดดันจนอาจเครียดหรือต่อต่านสิ่งที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ได้ โดยผู้ปกครองเองไม่เข้าใจ พัฒนาการของเด็ก ว่าเด็กในแต่ละวัยนั้นมีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน หากคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าการเรียนรู้ของเด็กต้องใช้เวลาและมีวิธีการเรียนรู้ที่ต่างกันก็จะทำให้ไม่กดดันลูก ไม่เปรียบเทียบและไม่ยัดเยียดวิธีการเรียนรู้ที่เกินวัยให้กับลูกของตนเอง

หากคุณเข้าใจ พัฒนาการของเด็ก แล้วคุณจะได้เข้าใจการเรียนรู้ของพวกเขาได้ ซึ่งทำให้คุณสามารถวางแผนการศึกษาและการดูแลที่ดีให้กับลูกได้ นอกจากนี้ยังทำให้เด็กสามารถโตตามวัยของตัวเองได้อย่างเหมาะสม