เมื่อวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ณ บริเวณด้านหน้าโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ได้มีการจัดงานแถลงข่าว เปิดตัวภาพยนตร์สารคดีเรื่องเยี่ยม ระดับโลก ชื่อเรื่องว่า “Walk With Me”  หรือในชื่อภาษาไทยว่า “ก้าวเดินกับฉัน”  ซึ่งหนังสารคดีเรื่องนี้จะพาเราก้าวเดินไปพร้อมเหล่านักบวชและหลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ พระภิกษุชาวเวียดนามผู้ได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพโดย มาร์ติน ลูเธอร์ คิง มาซึมซับประสบการณ์แสนพิเศษ ของการอยู่ “ที่นี่” และ “ขณะนี้” ผ่านรูปแบบภาพยนตร์และให้เสียงบรรยายโดย เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch)  (พระเอกชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง Doctor Strange, 12 Years a Slaveและ The Imitation Game )

​โดยบรรยายกาศงานในวันนั้น ได้มีการจัดแถลงข่าว 2 รอบ โดยรอบแรกในเวลา 12.45 น ภายใต้การเสวนาที่ชื่อ “Talk With Me”  จะเป็นการพูดถึงที่มาและแรงบันดาลใจ ในการสรรค์สร้าง ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ โดยได้ผู้ร่วมเสวนาคือ ภิกษุฟับเนียม และคุณ Max Pugh ผู้กำกับ  มาร่วมพูดคุย ท่ามกลาง ผู้ที่มาร่วมฟัง ทั้งที่เป็นแฟนประจำของdocumentary club และผู้ที่สนใจเรื่องราวของ หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ ต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ภิกษุสงฆ์ ,ภิกษุณี และ พุทธศาสนิกชนทั่วไป  หลังจบการเสวนาก็ได้มีการ ร่วมเดินกรรมฐานเข้าสู่งโรงภาพยนตร์ เพื่อรับชมภาพยนตร์เรื่อง    “Walk With Me” Thailand Premiere รอบแรกของประเทศไทย ที่ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า โรงภาพยนตร์ที่ 8 กันอย่างเป็นทางการ

และต่อมาใน 19.00 น. เป็นรอบการเสวนาอีกครั้งภายใต้ชื่อว่า “Q&A กับ Max Pugh  ผู้กำกับภาพยนตร์ Walk With Me” ซึ่งจะเป็นการพูดถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ในมุมของผู้กำกับ และพูดคุยถึงเบื้องหลังการถ่ายทำ ท่ามกลางสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจก็ยังมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งเช่นเดิม โดยทางคุณ Max Pugh ก็บอกเล่าถึงการถ่ายทำด้วยระยะเวลาที่ยาวนานถึง 3 ปี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ ต่อหลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ และ เหล่านักบวชที่ได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นทางการให้เข้าถึงทุกอิริยาบถแห่งวิถีเจริญสติในหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงการที่ได้ดาราชื่อดังอย่าง เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) ซึ่งที่มาคิวทองมาก มาร่วมสรรค์สร้างโดยให้เสียงบรรยาย ภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้ทั้งเรื่องเลยทีเดียว

“หลายปีที่แล้ว หลวงปู่ติช นัท ฮันห์เริ่มกล่าวกับศิษย์ทั่วโลกให้มองหาหนทางในการสื่อสารเรื่องราวการดำเนินชีวิตด้วยความรักและการเจริญสติผ่านสื่อภาพยนตร์ น้องชายแท้ๆ ของผมบวชที่หมู่บ้านพลัมตั้งแต่ปี 2008 (*ท่านเป็นซับเจ็กต์หลักคนหนึ่งของ Walk With Me) จึงติดต่อให้ผมเข้าไปใช้เวลา 3 เดือนกับการติดตามการเดินทางเผยแพร่คำสอนของนักบวชในสหรัฐอเมริกาเพื่อจะได้สามารถทำภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว และในที่สุด เราได้ใช้เวลาถึง 5 ปีเต็ม จนหนังเสร็จสิ้นลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี2016

นับตั้งแต่น้องผมประกาศว่าตัดสินใจจะเป็นนักบวชในพุทธศาสนา ใจผมก็เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าชีวิตต่อไปของเขาจะเป็นเช่นไร และการเดินทางเข้าไปทำหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ตัวผมเองได้เปิดรับวิถีแห่งสติเข้าสู่ชีวิตอย่างไม่คาดฝันมาก่อน ไม่ใช่เพื่อจะลองของหรือทดสอบตัวเองใดๆ แต่มันเกิดขึ้นกับจิตใจของผมอย่างเป็นธรรมชาติ ผมพบว่ากระบวนการของการ “ฟังอย่างลึกซึ้ง แบ่งปัน และอยู่ด้วยกันภายใต้คำสอน ในฐานะมนุษย์ผู้พยายามปลดปล่อยตนเองจากกับดักของชีวิตสมัยใหม่” เป็นประเด็นที่ผลักดันหัวใจผมมากที่สุด และก็คือสิ่งที่ผมปรารถนาจะถ่ายทอดผ่านหนังให้ได้อย่างดีที่สุด

​ผมกับมาร์ก เจ ฟรานซิสผู้ร่วมกำกับ เลือกใช้ “ภาษาภาพยนตร์” และรูปแบบของสารคดีแบบสังเกตการณ์ (observational documentary) เข้ามาสื่อวิถีปฏิบัติของหมู่บ้านพลัมให้คนภายนอกได้เห็น และเพื่อดึงผู้คนให้ดำดิ่งลงสู่ห้วงเวลาแห่งความสงบ ง่ายและงาม เราวางโครงสร้างหนังตามฤดูกาลทั้งสี่เพื่อใช้ธรรมชาติเป็นตัวละครหลัก นี่จึงไม่ใช่หนังเล่าเรื่องที่เน้นเจาะลึกบุคคลใด แต่เป็นความพยายามของเราที่จะใช้ภาพยนตร์จำลองจังหวะอันเนิ่นช้า เงียบนิ่ง และการภาวนาอย่างสงบของนักบวชในฤดูหนาวเป็นช่วงต้นเรื่อง จากนั้นมันจะเริ่มเปิดตัวเข้าหาคนภายนอกด้วยเรืี่องราวในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ก่อนจะพาทุกคนติดตามนักบวชไปบนวิถีของพวกเขาที่ทอดยาวออกเชื่อมต่อกับคนอีกมากมายในการเดินทางเผยแพร่ธรรมะที่สหรัฐอเมริกา สอดแทรกด้วยช่วงเวลาสนุกสนานและอ่อนโยนของพวกเขาบนระหว่างทางนั้น”

– แม็กซ์ พิวจ์ ผู้กำกับ Walk With Me

ปิดท้ายงานด้วยการถ่ายภาพที่ระลึก ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นทางการ จากผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างและผู้ที่ร่วมใจกันนำภาพยนตร์สารคดี เรื่องเยี่ยมเรื่องนี้ให้ได้มีโอกาสเข้ามาฉายในประเทศไทย นำโดย คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ถัดมาคือคุณMax Pugh ผู้กำกับ walk with me ถัดจากนั้นคือ คุณอุไร วนวิทย์  รองประธานกรรมการ มูลนิธิหมู่บ้านพลัม และคนสุดท้าย คุณธิดา  ผลิตผลการพิมพ์ ผู้ก่อตั้งDocumentary club ร่วมเป็นเกียรติในการถ่ายภาพครั้งนี้

​”เธอปรารถนาที่จะพบสัจธรรม
แต่เมื่อได้พบแล้ว
ก็อย่าหลีกหนีจากความทุกข์
มิเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า
เธอยังไม่ได้พบอะไรเลย”

ด้วยการถ่ายทำสามปีที่ได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นทางการให้เข้าถึงทุกอิริยาบถแห่งวิถีเจริญสติในหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส หนังสารคดีเรื่องนี้จะพาเราก้าวเดินไปพร้อมเหล่านักบวชและหลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ พระภิกษุชาวเวียดนามผู้ได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพโดย มาร์ติน ลูเธอร์ คิง

มาซึมซับประสบการณ์แสนพิเศษ ของการอยู่ “ที่นี่” และ “ขณะนี้” ผ่านรูปแบบภาพยนตร์และเสียงบรรยายของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ใน “Walk With Me ก้าวเดินกับฉัน”**เข้าฉายจริงตั้งแต่ 21 กันยายน เป็นต้นไป เฉพาะ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เท่านั้น สามารถ เช็ครอบฉายล่วงหน้าได้ที่  www.sfcinemacity.com   หรือ ติดตามข้อมูลภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/DocumentaryClubTH/

ขอบคุณที่มา: Ken Shinobi